Connect with us

PINGBOOK

KOREA

10 ปีที่จากไปของ ฮิเดะ สู่การเกิดใหม่ของ X Japan (2007-05-17)

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่าน ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีที่โลกได้สูญเสีย ฮิเดะโตะ มัตซึโมโตะ มือกีตาร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของวงการวิชวล ร็อกอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเมื่อ 4 เดือนก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งสุดท้ายกับ X Japan วงดนตรีที่สร้างชื่อในวงการให้กับเขา และเป็นเหตุผลให้ความหวังในการกลับมารวมกันใหม่ของยอดวงร็อกวงนี้ไม่ได้รับการพูดถึงขึ้นมาอีกเลย
       
       เหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 1998 ถูกเปิดเผยในภายหลังว่าในคืนดังกล่าวฮิเดะได้ดื่มฉลองกับเพื่อนในอพาร์ตเมนต์ของเขา ซึ่งเพื่อนหญิงที่เป็นรูมเมตของเขาเป็นผู้ที่พาเขาขึ้นนอนด้วยตัวเอง แต่เมื่อเธอกลับไปดูที่ห้องในอีกชั่วโมงต่อมาปรากฏว่าเขาไม่อยู่ที่ห้องเสียแล้ว จากการรายงานเผยว่าได้มีการพบร่างของเขาถูกแขวนอยู่กับลูกบิดประตู โดยมีผ้าขนหนูที่ขาดวิ่นเกี่ยวอยู่ ลมหายใจของเขารวยรินขณะที่รถพยาบาลมาถึง และเสียชีวิตขณะไปถึงที่โรงพยาบาลด้วยอายุ 33 ปี
       
       จากการเสียชีวิตอันแสนพิสดารดังกล่าวนำมาซึ่งการโต้เถียงถึงสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังการตาย ทั้งอุปนิสัยที่ชอบทำอะไรพิเรนทร์เพื่อหยอกล้อกับคนอื่น ซึ่งขณะนั้นเขากำลังเมาอยู่พอดี แต่ตามความคิดเห็นของไทจิ อดีตมือเบสสมาชิกของ X Japan ที่กล่าวไว้ในหนังสือ X no Sei to Shi: Uchuu wo Kaeru Tomo e ของเขาว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับสมาชิกของวง X Japan ทุกคนที่มักจะเอาผ้าขนหนูมาแขวนไว้ที่คอและไหล่หลังจากเสร็จการแสดงคอนเสิร์ตอันยาวนานในแต่ละคืนเพื่อเป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งฮิเดะก็ชอบทำแบบนั้นจนเป็นนิสัย จึงเป็นได้ว่าเขาอาจจะลื้นล้มจนขนผ้าขนหนูที่คอไปเกี่ยวกับประตูห้องน้ำจนนำมาซึ่งเรื่องน่าเศร้าดังกล่าว แม้จะมีแฟนหลายคนเห็นด้วยกับข้อสันนิฐานนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่เลือกจะเชื่อว่ามันเป็นความตั้งใจของฮิเดะเองที่จะยุติชีวิตของเขา แม้ในช่วงที่เส้นทางอาชีพในฐานะศิลปินเดี่ยวกำลังพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในขณะนั้น
       
       พิธีศพของฮิเดะจัดขึ้นที่วัด Tsukiji Hongan-ji ในกรุงโตเกียว วันที่ 7 พ.ค. 1998 ที่มีผู้คนเข้ามาร่วมงานถึง 7 หมื่นคน มีการปิดถนน และระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่าร้อยชีวิตและพนักงานรักษาความปลอดภัยกว่า 170 คนเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่แฟนเพลงที่อยู่ในอารมณ์อันโศกเศร้าได้มาชุมนุมกันมากมายเช่นนี้ ซึ่งทุกวันนี้อนุสรณ์เล็กๆ และสมุดเยี่ยมในงานยังคงอยู่ภายในวัดดังกล่าว
       
       นอกจากแฟนเพลงและแขกในงานนับหมื่นคนที่ไปร่วมไว้อาลัยกับฮิเดะแล้ว ยังรวมไปถึงสมาชิกที่เหลือของวง X Japan ที่ไปร่วมงานดังกล่าวพร้อมกับการแสดงร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเพลง Forever Love ที่จะทำให้แฟนเพลงนึกถึงเขาทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้อีกตราบเท่านาน
       




       นับจากวันนั้นชื่อของวง X Japan ก็เหลือเพียงแค่ตำนานให้แฟนเพลงระลึกถึง 10 ปีที่เรื่องราวของเขาถูกบอกเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านทางบทเพลงที่พวกเขาเคยสร้างสรรค์ไว้ตลอดระยะเวลา 10 ที่อยู่ในวงการเพลง
       
       ก่อนที่สายลมแห่งวันเวลาจะพัดพาความทรงจำที่แฟนเพลงมีต่อพวกเขาให้เลือนหายไป ข้อความเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใน myspace ของโยชิกิ และเว็บไซต์ของโทชิ 2 สมาชิกที่ตั้งวงนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือด้วยกัน อาจจะทำให้แฟนเพลงที่ยังคงรอคอยการกลับมาของพวกเขาพอจะมีความหวังขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
       




       ข้อความของโยชิกิ
       
       …และสำหรับ X Japan ผมได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม ๆ ๆ …ด้วยความสัตย์จริง มันต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ที่จะกำจัดความเจ็บปวดและเศร้าใจ….ซึ่งบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ทุกวันนี้ผมยังทำใจฟังเพลงหรือแม้แต่ดูวีดิโอของ X Japan โดยไม่มีน้ำตาอาบแก้มไม่ได้เลย
       
       วงของผมเอง…ที่ผมไม่สามารถฟังมันโดยไม่ร้องไห้ไม่ได้…ทำอย่างไรถึงหมุนเวลากลับไปได้…มันเจ็บปวดเหลือเกิน…แม้แต่พูดถึงชื่อของมัน…X Japan
       
       ทุกวันนี้ผมยังตีกลองได้ ผมคิดว่าตัวเองยังตีได้เร้าใจกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้ว่าคอผมจะยังบาดเจ็บและมันจะทำให้ข้อมือผมปวดร้าว…แต่ช่างมันปะไร…ผมไม่สนใจความเจ็บปวดทางกายอยู่แล้ว
       
       แต่เรื่องของจิตใจ…ผมไม่มั่นใจว่าจะรับมือมันได้หรือเปล่า…ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี…ผมได้พูดคุยกับโทชิ(นักร้องของ X Japan)…เขาโทรมาคุยกับผมตลอดช่วงสิ้นปีที่แล้ว…ซึ่งเป็นการเปิดใจครั้งแรกหลังจากที่เขาหันหลังให้กับวงตั้งแต่วันนั้น…โทชิและผมต่างเติบโตมาด้วยกัน…ผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
       
       WITHOUT YOU เป็นเนื้อเพลงที่ผมแต่งขึ้นหลังจากความตายของฮิเดะ เป็นเพลงที่ผมต้องบันทึกเสียงเปียโนเอาไว้หลายครั้ง เพราะคราบน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนแป้นคีย์มันทำให้นิ้วผมลื่นไถลทุกครั้งที่เริ่มเล่นใหม่
       
       ถ้าจะมีใครซักคนได้ร้องเพลงนั้น…จะต้องเป็นโทชิคนเดียว…แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร…มันเจ็บปวดเกินไป
       
       ผมขอโทษ ผมไม่อยากจะให้พวกคุณมาเศร้าไปกับมันด้วย…แต่หลายคนเฝ้าแต่ถามผมถึงเรื่องนี้ ผมถึงต้องพูดถึงมันเสียที…ขอแค่เวลาให้ผมซักหน่อยเถอะ…
       
       โยชิกิ
       
       24 ก.พ. 2007
       




       ข้อความของโทชิ
       
       เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ในเมืองลอส แองเจลิส ระหว่างที่ผมอยู่ที่นั่นไม่กี่วันผมมีโอกาสได้พบกับเพื่อนเก่าของผมที่สตูดิโอส่วนตัวของเขา
       
       เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาเยือนห้องอัดแห่งนี้ ดูมันใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ความสุดยอดของเครื่องไม้เครื่องมือในนั้นมันทำให้ผมถึงกับประหลาดใจ ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในโลกก็ได้ ผมรู้สึกยินดีไม่ต่างจากเขาเลย
       
       ที่นั่น ผมได้ฟังเพลงที่เพื่อนผมประพันธ์ขึ้นในสตูดิโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
       
       เราต่างมีเพื่อนรักที่จากเราไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเพลงที่ได้ยินนั้นมันมาจากความเศร้าและความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เขาบอกว่าแต่งขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเพื่อนของเขาเสียชีวิตไป
       
       เพลงที่ได้ยินก็เป็นเพลงบัลลาดสไตล์ถนัดของเขา ด้วยทำนองแสนเศร้าที่ขึ้นต้นด้วยเสียงเปียโนและสอดประสานด้วยเมโลดีสวยๆ ของเครื่องสาย และยิ่งกว่านั้น มันยังบันทึกไว้สำหรับเสียงของนักร้องผู้ชายอีกด้วย
       
       ผมไม่สามารถห้ามน้ำตาให้หยุดไหลได้ระหว่างที่ฟังเพลงนั้น และผมหวังอย่างจริงจังว่าต้องทำให้ชาวโลกได้ยินมันให้จงได้
       
       ผมร้องเพลงนั้นไปพร้อมกับเสียงเปียโนที่เพื่อนผมบรรเลง ซึ่งเป็นความปรารถนาของเขาที่จะให้ผมเป็นคนร้อง เขาได้แสดงวิธีการเล่นแต่ละโน้ตอย่างประณีตบรรจง ผมแค่ร้องตามสิ่งที่เขาปูทางเอาไว้เท่านั้น ถ้อยคำกลายเป็นบทเพลงด้วยทำนองและจังหวะที่เยี่ยมยอดของเขาเอง
       
       และเป็นเขาเองที่เลือกคีย์เพลงให้เหมาะกับห้วงเสียงของผม คีย์นี้จะทำให้นายร้องได้อย่างเหมาะสม แม้ว่ามันจะเล่นยากกว่าก็ตาม ผมพยายามที่จะร้องให้จบ ทั้งๆ ที่น้ำตายังไหลอยู่ตลอดเวลา
       
       เพลงเดียวบอกเรื่องราวได้มากกว่าคำพูดนับล้านคำ
       
       เพื่อนเก่าของผมกล่าวด้วยเสียงอันสั่นเครือ ดูเหมือนว่าเบื้องหลังแว่นตานั้นเขากำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน
       
       เป็นช่วงเวลาที่เราทั้งสองผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง โดยปราศจากคำพูดใดๆ เพลงแค่เพลงเดียวผูกพันเราไว้อีกครั้ง บางทีอาจจะเป็นวิญญาณของเพื่อนรักที่จากเราไปที่บันดาลให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
       
       หลังจากเติบโตและคบหากันมากว่า 37 ปี เรายังคงวิ่งเล่นไล่ล่าความฝันกันต่อไป
       
       10 ปีก่อนหน้านี้ ผมเหนื่อยหน่ายต่อวงการเพลงอันสับสนและเดินจากชีวิตเขามา ด้วยความหวังที่จะขับขานบทเพลงเพื่อเยี่ยวยาหัวใจที่อ่อนล้าของผู้คน รวมทั้งของผมเอง
       
       10 ปีที่ผมเดินทางไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้พบปะกับผู้คนนับพัน ทั้งเด็ก คนแก่ ที่ผมได้ร้องเพลงให้กับพวกเขาฟังอย่างใกล้ชิด
       
       10 ปีที่ผ่านไปกับความประทับใจ, น้ำตา และการเรียนรู้ตัวเอง หยั่งรากลึกแห่งประสบการณ์อันยอดเยี่ยม
       
       ผมอยากที่จะร้องและมอบเพลงแห่งชีวิตที่กำเนิดมาจากความเศร้าในการสูญเสียเพื่อนรักคนนั้น ในมุมมองของเราในวันนี้
       
       โปรเจ็คท์ใหม่ของเรากำลังเริ่มต้นในไม่ช้า
       
       ด้วย บทเพลงเดียวที่บอกเรื่องราวได้มากกว่าคำพูดนับล้านคำ เพลงนี้
       
       โทชิ
       
       21 มี.ค. 2007
       




Continue Reading
You may also like...
Click to comment

Leave a Reply

More in KOREA

Hot Tag

Trending

Follow me on Twitter

To Top